รีวิวประสบการณ์เช่าตู้แช่น้ำนม ตัวช่วยสุดปังของแม่มือใหม่
ช่วงหลังคลอดแรกๆ เราคิดว่าเรื่องยากที่สุดคือการให้นมลูก แต่พอเริ่มปั๊มนมจริงจัง สิ่งที่คิดไม่ถึงคือ น้ำนมเยอะจนตู้เย็นเต็ม แล้วพอหันไปดูตู้เย็นบ้านตัวเองที่มีทั้งแกงวันก่อน ของสด อาหารแช่แข็ง แล้วต้องยัดถุงน้ำนมเข้าไปอีก ก็เริ่มไม่มั่นใจว่าน้ำนมของลูกจะปลอดภัยแค่ไหน
นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการ เช่าตู้แช่ สำหรับเก็บน้ำนมโดยเฉพาะ ซึ่งอยากเล่าเป็นประสบการณ์ตรง เผื่อคุณแม่มือใหม่คนไหนกำลังลังเลว่าจะซื้อหรือเช่าดี หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นค่ะ
เหตุผลที่เลือกเช่า ตู้แช่นม
เราปั๊มนมทุก 3 ชั่วโมงเหมือนแม่ยุคใหม่ที่ตั้งใจเต็มที่เลยค่ะ วันนึงได้ประมาณ 20–25 ถุง พอครบอาทิตย์ก็เริ่มไม่มีที่วางในช่องฟรีซ พยายามจัดเรียงยังไงก็ไม่พอ ไหนจะต้องเก็บกับข้าวของบ้านอีก
ตอนนั้นยังใช้ตู้เย็น 2 ประตูทั่วไป ปรับช่องบนสุดให้เย็นสุดแล้ว แต่ก็รู้สึกว่ายังไม่นิ่งพอ พอไปอ่านข้อมูลก็เจอว่า อุณหภูมิที่ปลอดภัยควรต่ำกว่า -18 องศาเซลเซียส ซึ่งตู้เย็นบ้านเราไม่ถึงแน่นอน เลยเริ่มรู้ตัวว่าต้องหาวิธีจัดการอย่างจริงจัง
ปัญหาที่เจอ ก่อนตัดสินใจเช่าตู้แช่นม
ตอนแรกก็มีแว้บๆ ว่าจะซื้อตู้แช่เล็กมาไว้ใช้เฉพาะช่วงให้นม แต่พอเช็กดูราคาตู้แช่คุณภาพดีๆ ก็หลายพันถึงหมื่นต้นๆ แล้วยังต้องกังวลเรื่องดูแล ทำความสะอาด ล้างคราบน้ำแข็งอีก
บวกกับบ้านเราพื้นที่ไม่เยอะ จะเอาตู้มาเพิ่มอีกตัวแบบถาวรก็ลำบาก เลยคิดว่า ถ้ามีบริการเช่าตู้แช่ที่สะอาด ปลอดภัย และส่งถึงบ้านได้ ก็คงจะช่วยได้มาก
เช่าตู้แช่ครั้งแรก ต้องรู้อะไรบ้าง?
พอเริ่มหาข้อมูล ก็พบว่ามีผู้ให้บริการหลายเจ้ามากค่ะ ซึ่งแต่ละเจ้าก็จะมีจุดเด่นต่างกันไป ทั้งเรื่องขนาดตู้ ค่าเช่า รายเดือน หรือรายสัปดาห์ และบริการหลังการเช่า
สิ่งที่เราโฟกัสมากคือ 3 เรื่องนี้ค่ะ
1. ตู้ต้องสะอาด ไม่มีกลิ่น ไม่มีกลิ่นอับ
เพราะเราไม่อยากให้น้ำนมลูกมีกลิ่นพลาสติกหรือกลิ่นอาหารเดิมจากลูกค้าเก่า
2. ต้องควบคุมอุณหภูมิได้ดีและนิ่ง
ถ้าอุณหภูมิไม่นิ่ง อาจทำให้น้ำนมแยกชั้นหรือเสียก่อนถึงเวลาที่เราจะใช้
3. ต้องมีบริการหลังการเช่าที่ตอบไว
เผื่อเครื่องมีปัญหาหรือเราไม่มั่นใจ ก็อยากมีคนให้คำปรึกษาเร็วๆ
เราเลยเลือกผู้ให้บริการที่ดูมีมาตรฐานและชัดเจนเรื่องอุณหภูมิ รวมถึงมีรีวิวจากแม่ๆ คนอื่นที่เคยใช้มาก่อน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ บริการเช่าตู้แช่ ที่เข้าใจการใช้งานของแม่มือใหม่มากๆ มีรายละเอียดเรื่องขนาด และมีแนะนำว่าขนาดนี้ควรเก็บได้กี่ถุง
ความประทับใจแรกที่ไม่ผิดหวัง
บอกเลยว่าแค่เห็นพนักงานส่งของพร้อมตู้สะอาดๆ ที่ผ่านการล้างฆ่าเชื้อมาแล้ว เราก็รู้สึกอุ่นใจมาก
ตู้ที่เราเลือกเป็นแบบ 3.5 คิว กำลังพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป และมีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ ไม่ต้องเทน้ำทิ้งหรือกลัวน้ำแข็งเกาะข้างในเยอะๆ
เสียงของเครื่องก็ค่อนข้างเบา ไม่รบกวนตอนกลางคืนเลย
หลังจากเช่ามา 3 เดือน
หลังจากได้ตู้มา เราก็เก็บน้ำนมแยกไว้เลยเป็นสัดส่วน ไม่ปะปนกับของกินอย่างอื่น ทำให้มั่นใจขึ้นเยอะมาก
ข้อดีที่รู้สึกจริงๆ คือ
- จัดระเบียบถุงนมง่ายมาก ไม่ต้องเปิด–ปิดตู้หลายรอบ
- ใช้ถุงแบบวางนอนแล้ววางเรียงตามวันได้สวยงาม หยิบใช้ตามลำดับได้เลย
- ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำแข็งเกาะเหมือนช่องฟรีซปกติ
- ไม่ต้องกังวลว่าอาหารอื่นจะทำให้ถุงนมมีกลิ่น
ยิ่งตอนที่ต้องเตรียมนมไปฝากเลี้ยง เราสามารถแยกไว้ได้เลยว่าวันไหนต้องใช้กี่ถุง สะดวกมากๆ ค่ะ
ข้อควรรู้จากประสบการณ์
- ถ้าปั๊มนมวันละหลายครั้งจริงๆ ควรเลือกตู้ที่ความจุเยอะกว่า 3 คิวขึ้นไป เพราะนมเยอะกว่าที่คิด
- เช็กสัญญาให้ละเอียดว่า หากเครื่องมีปัญหา เขาเปลี่ยนหรือซ่อมให้ฟรีไหม
- ควรมีที่วางเฉพาะสำหรับตู้แช่ อย่าวางแนบกับผนังหรือของใช้เยอะๆ เพราะต้องระบายอากาศ
เราเชื่อว่าแม่ทุกคนอยากให้น้ำนมที่เราตั้งใจปั๊มมาเต็มความรักนั้นปลอดภัยที่สุด การแยกตู้สำหรับเก็บน้ำนมจึงไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย แต่เป็นการดูแลลูกในอีกมุมหนึ่ง
และสำหรับคนที่ไม่อยากลงทุนซื้อตู้ใหม่ หรือไม่มีพื้นที่มาก การเช่าตู้แช่ ก็เป็นอีกทางที่สะดวก ประหยัด และตอบโจทย์ได้มากกว่าที่คิด
ถ้าคุณกำลังมองหาทางเลือกที่ปลอดภัยและใช้งานง่าย อย่าลืมพิจารณาบริการเช่าที่มีคุณภาพ ดูแลความสะอาดจริงจัง และพร้อมให้คำแนะนำกับแม่ ๆ มือใหม่เสมอ
เพราะในวันที่เรายังยุ่งกับการเรียนรู้การเลี้ยงลูก การที่มีตู้แช่ดี ๆ มาช่วยดูแลน้ำนม ก็เหมือนมีผู้ช่วยที่เข้าใจเราอยู่เคียงข้างเสมอค่ะ